เครื่องสแกนบาร์โค้ด เครื่องอ่านบาร์โค้ด CCD มีสาย

เครื่องสแกนบาร์โค้ด CCD มีสาย คืออะไร ดีไหม ราคาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะสมกับเรา?

หัวอ่านแบบ CCD VS หัวอ่านแบบ LASER

เครื่องสแกนบาร์โค้ดหัวอ่านแบบ CCD บางท่านอาจจะยังไม่เคยเห็นหัวอ่านลักษณะนี้มาก่อน จริงๆแล้วหัวอ่านแบบ Linear Imager หรือบางท่านเรียกว่าหัวอ่าน CCD นั้นมีมานานแล้ว แต่เนื่องด้วยหัวอ่านแบบนี้ ราคาค่อนข้างสูงกว่าหัวอ่านที่เป็นแบบ Laser ที่มักจะเห็นกันบ่อยๆนั่นเอง

ซึ่งหัวอ่านแบบ Linear Imager นั้นข้อดีที่แตกต่างกับหัวอ่านแบบเลเซอร์ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถอ่านบาร์โค้ดบนหน้าจอต่างๆได้ ไม่ว่าจะหน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ก็อ่านได้ ไม่ต้องพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษแล้วค่อยสแกน และสามารถอ่านบาร์โค้ดที่มีลักษณะ ซีดจาง ถลอก ได้ดีกว่าด้วย และเรื่องความทนทนแข็งแรงกว่าเพราะกลไกภายในเป็นเหมือนไฟฉาย ที่ไม่ต้องมี Motor Swing เหมือนแบบหัวอ่านเลเซอร์ แต่ข้อเสียก็น่าจะเป็นเรื่องการอ่านบาร์โค้ดยาวๆ(ยาวแบบยาวมากเวอร์ 10-15 เซนติเมตรขึ้นไป) นั้นจะอ่านยากนิดนึง และที่สำคัญคือ บางรุ่น สามารถอ่านบาร์โค้ดสีได้แทบจะทุกสี ยกตัวอย่างเช่น NITA 2100R

ควรเลือกซื้อเครื่องสแกนบาร์โค้ด แบบไหน ระหว่างหัวอ่านแบบ CCD หรือ Laser อันไหนเหมาะกับเรา?

เรื่องแรกคือหัวอ่านแบบ CCD นั่นราคาสูงกว่าแบบหัวอ่านแบบ Laser อาจจะแพงกว่าไม่มากนัก แต่ว่าส่วนใหญ่จะแพงกว่า เพราะว่าอย่างที่บอกไปข้างต้น คือ หล่นแล้วพังยากกว่า อ่านบารโค้ดบนหน้าจอได้ บางรุ่นอ่านบาร์โค้ดสีได้ และอ่านบาร์โค้ดซีดจาง ถลอก ชำรุดได้ แต่!! ก็ยังมีจุดอ่อนเรื่องการอ่านบาร์โค้ด ที่มีขนาดยาวๆ เช่น บาร์โค้ดลัง รวมไปถึงบาร์โค้ดที่มีความถี่ของเส้นบาร์โค้ดเยอะๆ เช่น บิลค่าไฟ บิลธนาคาร และพวกฉลากบาร์โค้ดติดกล่องพัสดุออนไลน์พวก Lazada Shopee เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเป็นร้านค้า ขายปลีก ขายส่ง ที่มีการอ่านบาร์โค้ดลังบ่อยๆ และถ้าคุณใช้งานอ่านบาร์โค้ดฉลากส่งพัสดุออนไลน์ พวก Lazada Shopee ให้เลือกแบบ Laserไปเลย แต่ถ้าไม่มี ให้ใช้แบบ CCD

เครื่องสแกนบาร์โค้ด มีกี่แบบ?

จริงๆแล้ว การแบ่ง ประเภทของเครื่องสแกนบาร์โค้ดนั้น เราสามารถแบ่งได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับเความเข้าใจ หรือความต้องการใช้งานมากกว่า แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 3 แบบคือ

ประเภทและชนิดของเครื่องอ่านบาร์โค้ด

1.แบ่งตามชนิดการเชื่อมต่อ
ได้แก่ เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบมีสาย และเครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบไร้สาย แบบมีสายก็คือต้องเอาเครื่องมาเสียบสาย เช่น USB เป็นต้น และแบบไร้สายก็จะมีแบบ Bluetooth หรือแบบใช้ฐานหรือ USB Dongle เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายกัน นั่นเอง

2.แบ่งตามประเภทของหัวอ่าน
ได้แก่ หัวอ่านแบบ 1D(1 มิติ คือพวกบาร์โค้ดแท่งๆ ที่เห็นกันทั่วไป) และยังมีแบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อยอีกคือ แบบเลเซอร์และแบบ CCD ต่อไปอย่างที่สองคือ หัวอ่านแบบ 2D(2 มิติ คือพวก QR Code , Data Martix เป็นต้น) ซึ่งเครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบ 1D จะไม่สามารถอ่านบาร์โค้ดแบบ 2D ได้ แต่เครื่องอ่านบาร์โค้ดแบบ 2D นั้นจะสามารถอ่านได้ทั้ง แบบ 1D และ 2D ในตัวเดียวกันเลย

3.แบ่งตามรูปทรงเครื่องเครื่อง
3.1 แบบ Handheld ก็คือทรงมือจับที่เราเห็นกันทั่วๆไปนั่นเอง
3.2 แบบ Desktop หรือแบบตั้งโต๊ะ จะพบเห็นได้บ่อยๆตรงบริเวณแคชเชียร์คิดเงินตามห้าง Supermaket ใหญ่ๆ หลักการคือเอาสินค้าที่มีบาร์โค้ดไปผ่านหน้าเครื่อง ไม่ต้องหยิบเครื่องขึ้นมาแสกนนั่นเอง
3.3 แบบสุดท้ายคือแบบ Fixed อยู่กับที่ ซึ่งทรงนี้จะคล้ายๆกับแบบตั้งโต๊ะ แต่ว่าขนาดเล็กกว่ามากๆ และประสิทธิภาพในการอ่านบาร์โค้ดจะสูงมาก ส่วนใหญ่จะใช้ตามโรงงานอ่านบาร์โค้ดจากสินค้าที่ไหลมาตามสายพาน นั่นเอง

เครื่องสแกนบาร์โค้ด CCD มีสาย ตัวอย่างรุ่นและยี่ห้อ ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้

● Honeywell Xenon 1900G Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Honeywell Xenon 1900GSR Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Honeywell Xenon 1900GHD Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● CINO F560 เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● CINO F790 เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD อ่านบาร์โค้ดเร็วพิเศษ
● Newland HR100 Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Newland HR1150P-38 Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Datalogic Gryphon GD4130 Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Datalogic PowerScan PD9130 Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD
● Datalogic PowerScan PD9531 Barcode Scanner เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบมีสาย หัวอ่าน 1D CCD